วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การสอบครั้งที่ ๑

คำสั่งให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบลงในบล็อกดังนี้

๑. Classroom managemant นักศึกษามีความเข้าใจความหมายอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างไร
ตอบ การจัดการในชั้นเรียนในความเข้าใจของดิฉัน คือครูผู้สอนจะเป็นคนกำหนดว่าห้องเรียนนั้นจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับครูผู้สอน และครูจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความเมตตาและเป็นมิตรกับนักเรียน และที่สำคัญ ครูจะต้องเข้ากับเด็กได้และรู้รายละเอียดที่สำคัญในตัวนักเรียนด้วย
        นอกจากนั้นการจัดการในชั้นเรียนครูควรให้ความสนใจเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รู้ว่าเด็กที่เราสอนอยู่ในวัยและชอบอะไร เพื่อที่จะได้จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตัวผู้เรียน

๒. ท่านเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัติงาน มาตรฐานการปฏิบัติตน อย่างไร อธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
ตอบมาตรฐาน วิชาชีพครูเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นในการประกอบวิชาชีพครูครู โดยผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องนำมาตรฐานวิชาชีพเป็นหลักเกณฑ์ในการประกอบวิชาชีพ   มาตรฐาน วิชาชีพครู จะเป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมีสิทธิ ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครู  คือ  มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัติงาน  และมาตรฐานการปฏิบัติตน

๓. ท่านมีแนวคิดหรือหลักการจัดชั้นเรียนในโรงเรียน อย่างไรที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน

ตอบควร จัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอน เพื่อช่วยส่งเสริมให้กระบวนการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่เรียนตลอดจนช่วยสร้างเสริมความมีระเบียบวินัยให้แก่ผู้เรียน   นอกจากนี้ห้องเรียนควรมีบรรยากาศสดใส สะอาด สว่าง ปลอดโปรงกว้างขวางเหมาะสมในการเรียน   ระเบียบ เรียบร้อย มีมุมวิชาการส่งเสริมความรู้ มีการตกแต่งห้องให้สดใส ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลทำให้ผู้เรียนพอใจมาโรงเรียน เข้าห้องเรียนและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน และควรมีการเรียนการเรียนการสอนแบบ ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

๔. ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการจัดการชั้นเรียนในโรงเรียน ได้แก่ (๑)การจัดภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียน (๒)สภาพอาคารเรียนและความปลอดภัย ท่านมีแนวคิดในการพัฒนา(๑) และข้อ (๒) อย่างไร ที่จะทำให้โรงเรียนประสบผลสำเร็จดังกล่าว

ตอบ ทางโรงเรียนต้องมีการจัดภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียนเช่น การปลูกดอกไม้บริเวณโรงเรียนเพื่อดึงดูดให้ผู้เรียนสนใจในการเรียน เมื่อมีบรรยายกาศที่ดีนักเรียนจะสนใจการเรียนมากยิ่งขึ้น มีสภาพอาคารเรียนที่ปลอดภัย สภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้นักเรียนมีสุขภาพ ทางกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ซึ่งมีอิทธิผลต่อความเป็นอยู่และการเรียนของนักเรียนเป็นอันมาก ครูต้องมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นเช่น ให้นักเรียนจัดหรือติดอุปกรณ์ให้มีสีสวยงาม จัดกระถางต้นไม้ประดับชั้นเรียน จัดที่ว่างของชั้นเรียนให้นักเรียนทำกิจกรรม คอยให้คำแนะนำในการอ่านหนังสือ ค้นคว้าแก้ปัญหา และครูควรสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน ไม่ให้เครียด เป็นกันเองกับนักเรียน ให้นักเรียนรู้สึกมีความปลอดภัย สะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน

๕. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตคำว่าคุณภาพผู้เรียนท่านมีความเข้าใจอย่างไรอธิบายยกตัวอย่างประกอบ ในทัศนคติของนักศึกษาครู

ตอบ คุณภาพผู้เรียนตามทัศนะคติของดิฉันในฐานะอนาคตจะเป็นครูภาษาไทยดิฉันเข้าใจว่าคุณภาพของผู้เรียนคือประสิทธิภาพของผู้เรียนไม่ว่าจะอยู่ในระดับสูง ปานกลาง และต่ำ
          แม้ว่าเด็กไทยในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพในด้านการเขียนภาษาไทยค่อนข้างอยู่ในระดับที่เป็นห่วงแต่ผู้ที่เป็นครูก็พยายามช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น เช่น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนชุมชนปากเสียว มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพทางการเขียนที่น่าเป็นห่วงแต่ผู้ที่เป็นก็ได้สร้างแบบฝึกชุดพัฒนาการเขียนสำหรับเด็กเหล่านี้และมีการวัด ผลการเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึก ปรากฏว่าเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่า
         เชื่อว่าในอนาคตคนไทยจะต้องมี คุณภาพด้านการศึกษาที่มาจากพื้นฐานของระบบการศึกษา และสามารถก้าวข้ามปัญหา อุปสรรคต่างๆ ได้ และทุกอย่างจะเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้นั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปฏิรูประบบการศึกษาของไทยอย่างจริงจัง จึงจะทำให้สิ่งที่กำหนดไว้ในวันนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ในระยะเวลาของการปฏิรูปการศึกษาของประเทศใน ทศวรรษที่สองอย่างแน่นอน.

๖. ผลจากการประเมินพบว่าในปัจจุบันนี้ นักเรียนของประเทศไทย ยังมีปัญหาเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรมเป็นอย่างมาก ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะมีวิธีการอย่างไรที่จะกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจริยธรรมและคุณธรรมให้เกิดขึ้นกับนักเรียน อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ

ตอบ การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมแก่ผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน มีบุคคลิกที่เหมาะสม วางตนได้เหมาะสม เป็นตัวอย่างในด้านความประพฤติ มีเมตตา จริงใจ อบรมสั่งสอนกริยามรรยาท ดูแลความประพฤติของนักเรียน คอยช่วยเหลือแก้ไขเมื่อผู้เรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม มีหลักการในการพัฒนา โดยการปรับพฤติกรรม มีเทคนิคดังนี้
๑.การให้แรงเสริมทางบวก
๒.การให้ตัวแบบ
๓.การแต่งพฤติกรรม
๔.การชี้แนะ
๕.การลงโทษ
๖.การควบคุมตัวเอง
          โดยหลักการเหล่านี้ใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม เน้นสอนให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นสภาพการณ์ที่ขัดแย้งทางคุณธรรมจริยธรรม แล้วให้ผู้เรียนมีการเสนอ ให้ความคิด สำรวจหาเหตุผล และสรุปความเห็น โดยการการทำความกระจ่างในค่านิยม ช่วยให้ผู้เรียนค้นหา หรือทำความกระจ่างในค่านิยมที่ตนยึดถือ ช่วยทำความกระจ่างในค่านิยมของตนที่อาจจะขัดแย้งกับค่านิยมของสังคม โดยมีลำดับดังนี้

๑.เลือกค่านิยมโดยเสรี
๒.เลือกจากหลายๆ ค่านิยม
๓.เลือกโดยคำนึงถึงผลที่จะติดตามมา ทั้งด้านดีและไม่ดี
๔.พอใจ ยินดี ภูมิใจในค่านิยมที่ตนเองเลือกแล้ว
๕.ยึดมั่นในสิ่งที่ตนเองเลือกอย่างเปิดเผย
๖.ลงมือปฏิบัติในค่านิยมที่ตนเลือกแล้ว
๗.ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นลักษณะประจำตัวการสร้างกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งมีอยู่หลายวีธี เช่น
๑.สอนแบบบรรยาย
๒.สอนแบบไตรสิกขา
-ศีล ให้อยู่ในระเบียบวินัยทางกาย วาจา
-สมาธิ ให้รวบรวมจิตใจ ความคิดเป็นหนึ่งเดียว มีความแน่วแน่ ตัดสิ่งรบกวนออกจากการคิด
-ปัญญา ทำความเข้าใจปัญหา แก้ไขปัญหาจนเกิดความกระจ่างแจ้ง แก้ปัญหาได้ เกิดความรู้ เกิดปัญญา
๓.สอบแบบปุจฉา วิสัชชนา
๔.สอนแบบธรรมสากัจฉา สนทนาธรรม
๕.สอนแบบอริยสัจ๔ การสอนแบบอริยสัจ เป็นการสอนที่มีแนวเดียวกันกับแนวทางวิทยาศาสตร์
-กำหนดปัญหา พิจารณาปัญหา (ทุกข์)
-ตั้งสมมุติฐาน หาเหตุของปัญหา (สมุทัย)
-ทดลองเพื่อบรรลุการแก้ปัญหา (นิโรธ)
-วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปวิธีการก่อนนำไปใช้ (มรรค)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น